View Categories

ทำ SEO เองได้ไหม? ต้องเริ่มจากตรงไหน?

2 min read

คำตอบสั้นๆ คือ “ทำได้แน่นอน!” ครับ แต่การทำ SEO เองได้ให้ประสบความสำเร็จนั้นต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ ความอดทน และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เหมือนกับการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ครับ

การทำ SEO เองอาจต้องใช้เวลาและลงแรงพอสมควร แต่ก็มีข้อดีคือคุณจะเข้าใจเว็บไซต์และธุรกิจของคุณในมุมมองของ Search Engine มากขึ้น รวมถึงประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างเอเจนซี่ด้วยครับ

ต้องเริ่มจากตรงไหน? แนะนำ 7 ขั้นตอนเริ่มต้นสำหรับการทำ SEO ด้วยตัวเอง:

1. ทำความเข้าใจพื้นฐาน SEO และการทำงานของ Google

  • ศึกษาหลักการพื้นฐาน: ทำความเข้าใจว่า SEO คืออะไร, ทำไมถึงสำคัญ, Google ค้นหา จัดทำดัชนี และจัดอันดับเว็บไซต์อย่างไร
  • เรียนรู้ศัพท์เฉพาะ: เช่น Keyword, Backlinks, On-Page SEO, Off-Page SEO, Technical SEO, Domain Authority, Organic Traffic, SERP (Search Engine Results Page)
  • แหล่งเรียนรู้:
    • Google Search Central (ชื่อเดิม Google Webmasters): แหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก Google มีทั้งบล็อก, ไกด์ไลน์, และวิดีโอ (เป็นภาษาอังกฤษ แต่มีประโยชน์มาก)
    • บล็อกและช่อง YouTube ของผู้เชี่ยวชาญ SEO: ในไทยและต่างประเทศ มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่ให้ความรู้ฟรี
    • คอร์สออนไลน์: มีทั้งแบบฟรีและเสียเงินบนแพลตฟอร์มอย่าง Coursera, Udemy, SkillLane

2. ตั้งค่า Google Search Console และ Google Analytics

  • Google Search Console (GSC): คือเครื่องมือฟรีที่ “ต้องมี” สำหรับทุกคนที่ทำ SEO GSC จะช่วยให้คุณ:
    • ตรวจสอบว่า Google Index เว็บไซต์ของคุณได้หรือไม่
    • ดู Keyword ที่ผู้คนใช้ค้นหาแล้วเจอเว็บไซต์ของคุณ (Performance Report)
    • แจ้งเตือนเมื่อเว็บไซต์มีปัญหาทางเทคนิค
    • ส่ง Sitemap ให้ Google
    • ตรวจสอบปัญหา Mobile Usability
  • Google Analytics (GA): เครื่องมือฟรีสำหรับติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์ คุณจะเห็นข้อมูลสำคัญ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าที่ได้รับความนิยม, ระยะเวลาที่อยู่บนเว็บไซต์, และแหล่งที่มาของการเข้าชม

3. ทำ Keyword Research (วิจัย Keyword)

  • หัวใจหลักของ SEO: คือการค้นหาคำหรือวลีที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้ในการค้นหาสินค้า บริการ หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
  • เครื่องมือฟรีเบื้องต้น:
    • Google Keyword Planner: ใช้ร่วมกับ Google Ads แต่ก็สามารถใช้หาไอเดีย Keyword และประมาณการปริมาณการค้นหาได้
    • Google Search (Suggest & Related Searches): พิมพ์ Keyword ลงไปในช่องค้นหาของ Google แล้วดูคำแนะนำที่ขึ้นมา หรือดูส่วน “การค้นหาที่เกี่ยวข้อง” ด้านล่างสุดของหน้าผลลัพธ์
    • AnswerThePublic: ช่วยหาคำถามที่ผู้คนถามเกี่ยวกับ Keyword นั้น ๆ
  • สิ่งที่ต้องพิจารณา: ปริมาณการค้นหา, ความตั้งใจของผู้ค้นหา (Search Intent), ระดับการแข่งขัน

4. ปรับปรุง On-Page SEO

  • คือการปรับแต่งองค์ประกอบบนหน้าเว็บไซต์ของคุณ:
    • Title Tag: ชื่อหน้าที่ปรากฏบนแถบเบราว์เซอร์และในผลการค้นหา ควรมี Keyword หลักและดึงดูดใจ
    • Meta Description: คำอธิบายสั้นๆ ใต้ Title Tag ในผลการค้นหา ควรมี Keyword และกระตุ้นให้คลิก
    • Header Tags (H1, H2, H3…): ใช้จัดโครงสร้างเนื้อหาให้เป็นระเบียบและใส่ Keyword ย่อย
    • URL Structure: ทำให้ URL สั้น กระชับ และสื่อความหมาย มี Keyword
    • Content Quality & Length: เขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง, ครอบคลุม, ตอบโจทย์ Search Intent และมีความยาวที่เหมาะสม (ไม่ใช่แค่ยัด Keyword)
    • Image Alt Text: ใส่อธิบายรูปภาพ เพื่อช่วยให้ Google เข้าใจและช่วยให้ผู้พิการทางสายตาเข้าถึงข้อมูลได้
    • Internal Linking: เชื่อมโยงหน้าเว็บภายในเว็บไซต์ของคุณอย่างเป็นระบบ

5. แก้ไขปัญหา Technical SEO เบื้องต้น

  • ตรวจสอบ Mobile-Friendliness: เว็บไซต์ของคุณต้องแสดงผลได้ดีบนมือถือ (ใช้ Google Mobile-Friendly Test)
  • ความเร็วเว็บไซต์ (Page Speed): เว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะส่งผลดีต่อประสบการณ์ผู้ใช้และ SEO (ใช้ Google PageSpeed Insights)
  • Sitemap XML: สร้างและส่ง Sitemap ให้ Google Search Console เพื่อช่วยให้ Google ค้นพบหน้าเว็บทั้งหมด
  • Robots.txt: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้บล็อก Googlebot ไม่ให้เข้าถึงหน้าสำคัญ
  • โครงสร้างเว็บไซต์: ทำให้เว็บไซต์มีโครงสร้างที่ชัดเจน เข้าถึงง่าย ทั้งสำหรับผู้ใช้และ Googlebot

6. สร้าง Backlinks ที่มีคุณภาพ (Off-Page SEO)

  • Backlinks: คือลิงก์ที่เว็บไซต์อื่นชี้มายังเว็บไซต์ของคุณ เปรียบเสมือนการโหวตความน่าเชื่อถือจากเว็บอื่น ๆ
  • วิธีการสร้าง Backlinks ที่ดี (และปลอดภัย):
    • สร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่คนอยากแชร์หรืออ้างอิง
    • ติดต่อเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ลิงก์มา (Guest Posting, Resource Page)
    • การประชาสัมพันธ์ (PR)
    • หลีกเลี่ยงการซื้อลิงก์หรือใช้เทคนิค Black Hat SEO เด็ดขาด!

7. ติดตามผลลัพธ์และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

  • SEO ไม่ใช่ทำครั้งเดียวจบ: คุณต้องตรวจสอบอันดับ Keyword, ปริมาณ Organic Traffic, พฤติกรรมผู้ใช้ใน Google Analytics อย่างสม่ำเสมอ
  • ปรับปรุงตามข้อมูล: หากเห็นว่าหน้าไหนอันดับไม่ดี ก็กลับไปปรับปรุงเนื้อหา, เพิ่ม Keyword, หรือหา Backlinks
  • เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของ Google Algorithm: Google มีการอัปเดตอัลกอริทึมอยู่เสมอ การติดตามข่าวสารจะช่วยให้คุณปรับตัวได้ทัน

ข้อควรพิจารณาก่อนทำเอง:

  • เวลา: คุณมีเวลามากพอที่จะศึกษา ลงมือทำ และติดตามผลหรือไม่?
  • ความซับซ้อน: บางปัญหาทางเทคนิคอาจซับซ้อนและต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง
  • การแข่งขัน: หากธุรกิจของคุณอยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การทำเองอาจใช้เวลานานมากในการเห็นผล

หากคุณมีเวลา ความกระตือรือร้น และพร้อมที่จะเรียนรู้ การทำ SEO ด้วยตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้จริงและคุ้มค่าอย่างแน่นอน

Powered by BetterDocs